2. ตัวอย่างการบันทึกรายการในสมุดราย

2. ตัวอย่างการบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป

ตัวอย่างที่ 1 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวมาลงทุน)
นายบำรุงได้เปิดกิจการอู่ซ่อมรถชื่อ “บำรุงกลการ” โดยเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่เดือนมกราคม 2546 และมีรายการค้าเกิดขึ้นดังนี้
2546
ม.ค. 1 นายบำรุงนำเงินสดมาลงทุน 400,000 บาท
2 ซื้ออุปกรณ์ในการซ่อม 150,000 บาท
5 ได้รับเงินค่าซ่อมรถ 35,000 บาท
8 ซื้ออุปกรณ์ซ่อมเพิ่มเติม 100,000 บาท โดยจ่ายเงินสดไปเพียง 40,000 บาท ที่เหลือขอติดไว้ก่อน
12 จ่ายค่าโฆษณาอู่ 2,000 บาท
15 ส่งบิลไปเรียกเก็บค่าซ่อมรถจากบริษัท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน 65,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
20 จ่ายค่าแรงคนงาน 6,000 บาท
21 ได้รับชำระหนี้จากบริษัท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน 30,000 บาท และนำเงินฝากธนาคารทันที
26 จ่ายชำระหนี้ค่าอุปกรณ์ซ่อมที่ซื้อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 46 ทั้งหมด
28 จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า 750 บาท30 จ่ายค่าเช่าอู่ 5,000 บาท ด้วยเช็ค


ตัวอย่างที่ 2 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างมาลงทุน)
นางสะอาดได้เปิดกิจการซักอบรีดชื่อ “สะอาดจังลอนดรี” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 โดยนำสินทรัพย์ต่าง ๆ มาลงทุนดังนี้ เงินสด 300,000 บาท อุปกรณ์ซักอบรีด 200,000 บาท เครื่องตกแต่ง 100,000 บาท และ รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 400,000 บาท ในเดือนมกราคม 2546 มีรายการค้าที่เกิดขึ้นดังนี้
2546
ม.ค. 2 นำเงินฝากธนาคาร 200,000 บาท และในวันนี้ได้ซื้อผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นเงิน
6,000 บาท
4 จ่ายค่าเช่าร้าน 10,000 บาท ด้วยเช็ค
5 รับเงินค่าบริการซักรีดเป็นเงิน 4,500 บาท
7 ซื้อเครื่องซักผ้าเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง ๆ ละ 10,000 บาท จ่ายเงินสด 5,000 บาท ที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546
9 ส่งบิลเรียกเก็บค่าซักรีดให้กับโรงแรมถาวรอินน์ จำนวน 30,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
10 นางสะอาดนำผงซักฟอกไปใช้ที่บ้านเป็นเงิน 100 บาท
11 กู้เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารกรุงธน จำกัด 200,000 บาท ธนาคารโอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกิจการในวันนี้
16 โรงแรมถาวรอินน์จ่ายชำระหนี้ค่าซักรีดทั้งหมดด้วยเช็คลงวันที่ 26 มกราคม 2546
20 รับเช็คเป็นค่าบริการซักรีด 3,000 บาท
25 ให้บริการซักรีดกับลูกค้าเป็นเงิน 2,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
26 เช็คที่โรงแรมถาวรอินน์จ่ายให้เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 46 ครบกำหนดวันนี้ กิจการได้นำเช็คฝากเข้าบัญชีธนาคารแล้ว
30 จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ 3,400 บาท และจ่ายเงินเดือนพนักงาน 10,000 บาท
หมายเหตุ : รายการค้าวันที่ 7 และวันที่ 30 เป็นการบันทึกบัญชีแบบรวม (Compound Journal Entries) ได้ โดยที่รายการค้าวันที่ 7 เป็นรายการค้ารายการเดียวที่มีรายการทางด้านเครดิตมากกว่า 1 รายการ และรายการค้าวันที่ 30 ถึงแม้ว่าเป็น 2 รายการค้าแต่เป็นการจ่ายค่าใช้จ่ายเหมือนกันเพียงแต่เป็นค่าใช้จ่ายต่างชนิดกัน ก็สามารถบันทึกเป็นแบบรวมได้ สำหรับรายการค้าวันที่ 2 เนื่องจากว่าพิสูจน์ได้แน่นอนว่า 2 รายการค้านั้นไม่ใช่รายการค้าเดียวกัน และเป็นรายการค้าต่างประเภทกันอีกด้วย รายการค้าแรกเป็นเรื่องของการนำเงินฝากธนาคารแต่รายการค้าที่ 2 เป็นเรื่องของการซื้อวัสดุในการซักอบรีด ดังนั้นรายการค้าในวันที่ 2 นี้จึงบันทึกบัญชีแบบรวมไม่ได้ ต้องแยกบันทึกทีละรายการค้า โดยเขียนคำอธิบายรายการ 2 ครั้ง ขีดเส้นใต้ 2 ครั้ง แต่ไม่ต้องเขียนวันที่ในช่องวันที่ใหม่ เนื่องจากเป็นรายการค้าที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน

ตัวอย่างที่ 3 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างและหนี้สินมาลงทุน)
นายบริสุทธิ์ ได้เปิดกิจการบริการทำความสะอาด โดยรับทำความสะอาดอาคารทั่วราชอาณาจักร ชื่อร้าน “มิสเตอร์คลีนเนอร์” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 โดยนำเงินสด 200,000 บาท เงินฝากธนาคาร 500,000 บาท ที่ดิน 300,000 บาท อาคาร 300,000 บาท อุปกรณ์ทำความสะอาด 100,000 บาท และเงินกู้ธนาคาร 500,000 บาท มาลงทุน รายการค้าในเดือนมกราคม 2546 ของร้านมิสเตอร์คลีนเนอร์ มีดังนี้
2546
ม.ค. 2 ซื้อวัสดุสิ้นเปลืองในการทำความสะอาด เช่น น้ำยาถูพื้น น้ำยาเช็ดกระจก เป็นเงินเชื่อ
40,000 บาท
3 ซื้อวัสดุสำนักงาน เช่น กระดาษ ปากกา ดินสอ จำนวน 3,000 บาท
5 ได้รับเงินค่าบริการทำความสะอาดอาคารรียูเนี่ยนทาวเวอร์ 50,000 บาท
6 ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน 60,000 บาท จ่ายเงินสด 10,000 บาท ที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 31 มกราคม 2546 จำนวน 25,000 บาท และเช็คลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 จำนวน 25,000 บาท
10 ให้บริการทำความสะอาดอาคารพิกุลแมนชั่น เป็นเงิน 20,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
15 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนแรกให้คนงาน 30,000 บาท โดยผ่านบัญชีธนาคาร
16 จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุสิ้นเปลืองทั้งหมดด้วยเช็ค
19 ซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในกิจการ 1 คัน ราคา 500,000 บาท จ่ายเงินดาวน์เป็นเช็คไป 100,000 บาท ที่เหลือผ่อนชำระอีก 10 งวด
25 นายบริสุทธิ์จ่ายเช็คจำนวน 10,000 บาท เป็นค่าเรียนเทควันโดของบุตรชาย
28 จ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ 1,750 บาท และในวันนี้ได้จ่ายค่าอาหารเลี้ยงรับรองลูกค้าอีก
500 บาท
30 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนหลังให้คนงาน 30,000 บาท โดยผ่านบัญชีธนาคาร และในวันนี้ได้รับชำระหนี้จากพิกุลแมนชั่นครึ่งหนึ่ง
31 เช็คที่สั่งจ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์สำนักงานครบกำหนดวันนี้ มีผู้ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแล้ว
ตัวอย่างที่ 4 (กรณีรายการเปิดบัญชีไม่ได้เป็นการลงทุนครั้งแรก แต่เป็นการเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการ)
นายจำกัด เปิดกิจการรับกำจัดแมลงทุกชนิดชื่อร้าน “แมลงหนี” มาตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2520 วันที่ 1 มกราคม 2546 ซึ่งเป็นวันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการมียอดคงเหลือของบัญชีสินทรัพย์ และหนี้สินต่าง ๆ ดังนี้ เงินสด 200,000 บาท เงินฝากธนาคาร 200,000 บาท ลูกหนี้ 50,000 บาท ตั๋วเงินรับ 20,000 บาท วัสดุสำนักงาน 5,000 บาท วัสดุสิ้นเปลือง 10,000 บาท อุปกรณ์กำจัดแมลง 50,000 บาท อุปกรณ์สำนักงาน 30,0000 บาท เจ้าหนี้ 60,000 บาท ตั๋วเงินจ่าย 30,000 บาท เงินกู้ธนาคาร 200,000 บาท
ในเดือนมกราคม 2546 มีรายการค้าของร้านแมลงหนีเกิดขึ้น ดังนี้
2546
ม.ค. 2 จ่ายค่าเช่าสำนักงาน 10,000 บาท
7 รับชำระหนี้จากลูกหนี้ 10,000 บาท
10 ได้รับเงินค่าบริการกำจัดปลวก 6,000 บาท
12 นำหนังสือพิมพ์เก่าของกิจการไปขายได้เงิน 300 บาท
15 ส่งบิลค่าบริการกำจัดมดให้แก่บริษัท บ้านและเรือน จำกัด เป็นเงิน 120,000 บาท ได้รับเงินสด 20,000 บาท เช็คลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 จำนวน 50,000 บาท ที่เหลือลูกค้าของค้างไว้ก่อน
17 นำเงินฝากธนาคาร 30,000 บาท
18 จ่ายเงินซื้อพันธบัตรของการสื่อสารแห่งประเทศไทย จำนวน 50,000 บาท เพื่อลงทุน
21 จ่ายค่าโฆษณาร้าน 3,000 บาท
26 ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. ตัวอย่างการบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไปตัวอย่างที่ 1 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวมาลงทุน) นายบำรุงได้เปิดกิจการอู่ซ่อมรถชื่อ "บำรุงกลการ" โดยเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๔๖ และมีรายการค้าเกิดขึ้นดังนี้๒๕๔๖ม.ค. 1 นายบำรุงนำเงินสดมาลงทุน 400000 บาท ซื้ออุปกรณ์ในการซ่อม 2 150, 000 บาท5 ได้รับเงินค่าซ่อมรถ 35000 บาท8 ซื้ออุปกรณ์ซ่อมเพิ่มเติม 100000 บาทโดยจ่ายเงินสดไปเพียง 40000 บาทที่เหลือขอติดไว้ก่อน12 จ่ายค่าโฆษณาอู่ 2000 บาท15 ส่งบิลไปเรียกเก็บค่าซ่อมรถจากบริษัทอุตสาหะประกันภัยจำกัดจำนวน 65000 บาทยังไม่ได้รับเงิน20 จ่ายค่าแรงคนงาน 6000 บาท21 ได้รับชำระหนี้จากบริษัทอุตสาหะประกันภัยจำกัดจำนวน 30000 บาทและนำเงินฝากธนาคารทันที26 จ่ายชำระหนี้ค่าอุปกรณ์ซ่อมที่ซื้อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 46 ทั้งหมด28 จ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้า 750 บาท30 จ่ายค่าเช่าอู่ 5000 บาทด้วยเช็คตัวอย่างที่ 2 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างมาลงทุน) นางสะอาดได้เปิดกิจการซักอบรีดชื่อ "สะอาดจังลอนดรี" เมื่อวันที่ 1 มกราคม ๒๕๔๖ โดยนำสินทรัพย์ต่างๆ มาลงทุนดังนี้เงินสด 300,000 วรรคอุปกรณ์ซักอบรีด 200000 บาทเครื่องตกแต่ง 100000 บาทและรถยนต์ 1 คันมูลค่า 400000 บาทในเดือนมกราคม ๒๕๔๖ มีรายการค้าที่เกิดขึ้นดังนี้๒๕๔๖ม.ค. 2 นำเงินฝากธนาคาร 200000 บาทและในวันนี้ได้ซื้อผงซักฟอกน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นเงิน 6000 บาทด้วยเช็ค 4 จ่ายค่าเช่าร้าน 10000 บาท5 รับเงินค่าบริการซักรีดเป็นเงิน 4500 บาท7 ซื้อเครื่องซักผ้าเพิ่มเติมอีก 2 เครื่องๆ ล่ะ 10000 บาทจ่ายเงินสด 5000 บาทที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ยังไม่ได้รับเงิน 9 ส่งบิลเรียกเก็บค่าซักรีดให้กับโรงแรมถาวรอินน์จำนวน 30000 บาท10 นางสะอาดนำผงซักฟอกไปใช้ที่บ้านเป็นเงิน 100 บาทธนาคารโอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกิจการในวันนี้ 11 กู้เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารกรุงธนจำกัด 200000 บาท16 โรงแรมถาวรอินน์จ่ายชำระหนี้ค่าซักรีดทั้งหมดด้วยเช็คลงวันที่ 26 มกราคม ๒๕๔๖20 รับเช็คเป็นค่าบริการซักรีด 3000 บาทยังไม่ได้รับเงิน 25 ให้บริการซักรีดกับลูกค้าเป็นเงิน 2000 บาท26 เช็คที่โรงแรมถาวรอินน์จ่ายให้เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 46 ครบกำหนดวันนี้กิจการได้นำเช็คฝากเข้าบัญชีธนาคารแล้ว30 จ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ 3400 บาทและจ่ายเงินเดือนพนักงาน 10000 บาทหมายเหตุ: รายการค้าวันที่และวันที่ 30 เป็นการบันทึกบัญชีแบบรวม 7 (ผสมราย) โดยที่รายการค้าวันที่ 7 เป็นรายการค้ารายการเดียวที่มีรายการทางด้านเครดิตมากกว่า 1 ได้รายการและรายการค้าวันที่ถึงแม้ว่าเป็นรายการค้าแต่เป็นการจ่ายค่าใช้จ่ายเหมือนกันเพียงแต่เป็นค่าใช้จ่ายต่างชนิดกันก็สามารถบันทึกเป็นแบบรวมได้สำหรับรายการค้าวันที่ 2 30 2 2 รายการค้านั้นไม่ใช่รายการค้าเดียวกันและเป็นรายการค้าต่างประเภทกันอีกด้วยรายการค้าแรกเป็นเรื่องของการนำเงินฝากธนาเนื่องจากว่าพิสูจน์ได้แน่นอนว่าคารแต่รายการค้าที่ 2 เป็นเรื่องของการซื้อวัสดุในการซักอบรีดดังนั้นรายการค้าในวันที่ 2 นี้จึงบันทึกบัญชีแบบรวมไม่ได้ต้องแยกบันทึกทีละรายการค้าโดยเขียนคำอธิบายรายการ 2 ครั้งขีดเส้นใต้ 2 ครั้งแต่ไม่ต้องเขียนวันที่ในช่องวันที่ใหม่เนื่องจากเป็นรายการค้าที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันตัวอย่างที่ 3 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างและหนี้สินมาลงทุน) นายบริสุทธิ์ได้เปิดกิจการบริการทำความสะอาดโดยรับทำความสะอาดอาคารทั่วราชอาณาจักรชื่อร้าน "มิสเตอร์คลีนเนอร์" เมื่อวันที่ 1 มกราคม ๒๕๔๖ โดยนำเงินสด 200000 บาทเงินฝากธนาคาร 500000 บาทที่ดิน 300,000 บาทอาคาร 300,000 บาทอุปกรณ์ทำความสะอาด 100000 บาทและเงินกู้ธนาคาร 500000 บาทมาลงทุนรายการค้าในเดือนมกราคม ๒๕๔๖ ของร้านมิสเตอร์คลีนเนอร์มีดังนี้๒๕๔๖ม.ค. 2 ซื้อวัสดุสิ้นเปลืองในการทำความสะอาดเช่นน้ำยาถูพื้นน้ำยาเช็ดกระจกเป็นเงินเชื่อ 40000 บาท3 ซื้อวัสดุสำนักงานเช่นกระดาษปากกาดินสอจำนวน 3000 บาท5 ได้รับเงินค่าบริการทำความสะอาดอาคารรียูเนี่ยนทาวเวอร์ 50000 บาท6 ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน 60000 บาทจ่ายเงินสด 10000 บาทที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 31 มกราคม ๒๕๔๖ จำนวน 25000 บาทและเช็คลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ จำนวน 25000 บาทยังไม่ได้รับเงิน 10 ให้บริการทำความสะอาดอาคารพิกุลแมนชั่นเป็นเงิน 20000 บาทโดยผ่านบัญชีธนาคาร 15 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนแรกให้คนงาน 30000 บาท16 จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุสิ้นเปลืองทั้งหมดด้วยเช็ค19 ซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในกิจการ 1 คันราคา 500000 บาทจ่ายเงินดาวน์เป็นเช็คไป 100000 บาทที่เหลือผ่อนชำระอีก 10 งวดเป็นค่าเรียนเทควันโดของบุตรชาย 25 นายบริสุทธิ์จ่ายเช็คจำนวน 10000 บาท28 จ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ 1,750 บาทและในวันนี้ได้จ่ายค่าอาหารเลี้ยงรับรองลูกค้าอีก 500 บาท30 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนหลังให้คนงาน 30000 บาทโดยผ่านบัญชีธนาคารและในวันนี้ได้รับชำระหนี้จากพิกุลแมนชั่นครึ่งหนึ่ง31 เช็คที่สั่งจ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์สำนักงานครบกำหนดวันนี้มีผู้ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแล้วตัวอย่างที่ (กรณีรายการเปิดบัญชีไม่ได้เป็นการลงทุนครั้งแรกแต่เป็นการเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการ 4) นายจำกัดเปิดกิจการรับกำจัดแมลงทุกชนิดชื่อร้าน "แมลงหนี" มาตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2520 วันที่ 1 มกราคม ๒๕๔๖ ซึ่งเป็นวันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการมียอดคงเหลือของบัญชีสินทรัพย์และหนี้สินต่างๆ ดังนี้เงินสด 200000 วรรคเงินฝากธนาคาร 200000 บาทลูกหนี้ 50000 บาทตั๋วเงินรับ 20000 วรรควัสดุสำนักงาน 5000 วรรควัสดุสิ้นเปลือง 10000 วรรคอุปกรณ์กำจัดแมลง 50000 บาทอุปกรณ์สำนักงาน 30,0000 วรรคเจ้าหนี้ 60000 บาทตั๋วเงินจ่าย 30000 วรรคเงินกู้ธนาคาร 200000 วรรค ดังนี้มีรายการค้าของร้านแมลงหนีเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ๒๕๔๖๒๕๔๖ม.ค. 2 จ่ายค่าเช่าสำนักงาน 10000 บาท7 รับชำระหนี้จากลูกหนี้ 10000 บาท10 ได้รับเงินค่าบริการกำจัดปลวก 6000 บาท12 นำหนังสือพิมพ์เก่าของกิจการไปขายได้เงิน 300 บาท15 ส่งบิลค่าบริการกำจัดมดให้แก่บริษัทบ้านและเรือนจำกัดเป็นเงิน 120000 รายทั้งนี้วรรคได้รับเงินสด 20000 บาทเช็คลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ จำนวน 50000 บาทที่เหลือลูกค้าของค้างไว้ก่อน17 นำเงินฝากธนาคาร 30000 บาทเพื่อลงทุน 18 จ่ายเงินซื้อพันธบัตรของการสื่อสารแห่งประเทศไทยจำนวน 50000 บาท21 จ่ายค่าโฆษณาร้าน 3000 บาท26 ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยจ่ายเงินสดไปเพียง40,000 บาท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน65,000 บาท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน30,000 บาท 2. ตัวอย่างการบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป

ตัวอย่างที่ 1 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์เพียงอย่างเดียวมาลงทุน)
นายบำรุงได้เปิดกิจการอู่ซ่อมรถชื่อ “บำรุงกลการ” โดยเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่เดือนมกราคม 2546 และมีรายการค้าเกิดขึ้นดังนี้
2546
ม.ค. 1 นายบำรุงนำเงินสดมาลงทุน 400,000 บาท
2 ซื้ออุปกรณ์ในการซ่อม 150,000 บาท
5 ได้รับเงินค่าซ่อมรถ 35,000 บาท
8 ซื้ออุปกรณ์ซ่อมเพิ่มเติม 100,000 บาท โดยจ่ายเงินสดไปเพียง 40,000 บาท ที่เหลือขอติดไว้ก่อน
12 จ่ายค่าโฆษณาอู่ 2,000 บาท
15 ส่งบิลไปเรียกเก็บค่าซ่อมรถจากบริษัท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน 65,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
20 จ่ายค่าแรงคนงาน 6,000 บาท
21 ได้รับชำระหนี้จากบริษัท อุตสาหะประกันภัย จำกัด จำนวน 30,000 บาท และนำเงินฝากธนาคารทันที
26 จ่ายชำระหนี้ค่าอุปกรณ์ซ่อมที่ซื้อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 46 ทั้งหมด
28 จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า 750 บาท30 จ่ายค่าเช่าอู่ 5,000 บาท ด้วยเช็ค


ตัวอย่างที่ 2 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างมาลงทุน)
นางสะอาดได้เปิดกิจการซักอบรีดชื่อ “สะอาดจังลอนดรี” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 โดยนำสินทรัพย์ต่าง ๆ มาลงทุนดังนี้ เงินสด 300,000 บาท อุปกรณ์ซักอบรีด 200,000 บาท เครื่องตกแต่ง 100,000 บาท และ รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 400,000 บาท ในเดือนมกราคม 2546 มีรายการค้าที่เกิดขึ้นดังนี้
2546
ม.ค. 2 นำเงินฝากธนาคาร 200,000 บาท และในวันนี้ได้ซื้อผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นเงิน
6,000 บาท
4 จ่ายค่าเช่าร้าน 10,000 บาท ด้วยเช็ค
5 รับเงินค่าบริการซักรีดเป็นเงิน 4,500 บาท
7 ซื้อเครื่องซักผ้าเพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง ๆ ละ 10,000 บาท จ่ายเงินสด 5,000 บาท ที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2546
9 ส่งบิลเรียกเก็บค่าซักรีดให้กับโรงแรมถาวรอินน์ จำนวน 30,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
10 นางสะอาดนำผงซักฟอกไปใช้ที่บ้านเป็นเงิน 100 บาท
11 กู้เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารกรุงธน จำกัด 200,000 บาท ธนาคารโอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของกิจการในวันนี้
16 โรงแรมถาวรอินน์จ่ายชำระหนี้ค่าซักรีดทั้งหมดด้วยเช็คลงวันที่ 26 มกราคม 2546
20 รับเช็คเป็นค่าบริการซักรีด 3,000 บาท
25 ให้บริการซักรีดกับลูกค้าเป็นเงิน 2,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
26 เช็คที่โรงแรมถาวรอินน์จ่ายให้เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 46 ครบกำหนดวันนี้ กิจการได้นำเช็คฝากเข้าบัญชีธนาคารแล้ว
30 จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ 3,400 บาท และจ่ายเงินเดือนพนักงาน 10,000 บาท
หมายเหตุ : รายการค้าวันที่ 7 และวันที่ 30 เป็นการบันทึกบัญชีแบบรวม (Compound Journal Entries) ได้ โดยที่รายการค้าวันที่ 7 เป็นรายการค้ารายการเดียวที่มีรายการทางด้านเครดิตมากกว่า 1 รายการ และรายการค้าวันที่ 30 ถึงแม้ว่าเป็น 2 รายการค้าแต่เป็นการจ่ายค่าใช้จ่ายเหมือนกันเพียงแต่เป็นค่าใช้จ่ายต่างชนิดกัน ก็สามารถบันทึกเป็นแบบรวมได้ สำหรับรายการค้าวันที่ 2 เนื่องจากว่าพิสูจน์ได้แน่นอนว่า 2 รายการค้านั้นไม่ใช่รายการค้าเดียวกัน และเป็นรายการค้าต่างประเภทกันอีกด้วย รายการค้าแรกเป็นเรื่องของการนำเงินฝากธนาคารแต่รายการค้าที่ 2 เป็นเรื่องของการซื้อวัสดุในการซักอบรีด ดังนั้นรายการค้าในวันที่ 2 นี้จึงบันทึกบัญชีแบบรวมไม่ได้ ต้องแยกบันทึกทีละรายการค้า โดยเขียนคำอธิบายรายการ 2 ครั้ง ขีดเส้นใต้ 2 ครั้ง แต่ไม่ต้องเขียนวันที่ในช่องวันที่ใหม่ เนื่องจากเป็นรายการค้าที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน

ตัวอย่างที่ 3 (กรณีรายการเปิดบัญชีเป็นการนำสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งอย่างและหนี้สินมาลงทุน)
นายบริสุทธิ์ ได้เปิดกิจการบริการทำความสะอาด โดยรับทำความสะอาดอาคารทั่วราชอาณาจักร ชื่อร้าน “มิสเตอร์คลีนเนอร์” เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 โดยนำเงินสด 200,000 บาท เงินฝากธนาคาร 500,000 บาท ที่ดิน 300,000 บาท อาคาร 300,000 บาท อุปกรณ์ทำความสะอาด 100,000 บาท และเงินกู้ธนาคาร 500,000 บาท มาลงทุน รายการค้าในเดือนมกราคม 2546 ของร้านมิสเตอร์คลีนเนอร์ มีดังนี้
2546
ม.ค. 2 ซื้อวัสดุสิ้นเปลืองในการทำความสะอาด เช่น น้ำยาถูพื้น น้ำยาเช็ดกระจก เป็นเงินเชื่อ
40,000 บาท
3 ซื้อวัสดุสำนักงาน เช่น กระดาษ ปากกา ดินสอ จำนวน 3,000 บาท
5 ได้รับเงินค่าบริการทำความสะอาดอาคารรียูเนี่ยนทาวเวอร์ 50,000 บาท
6 ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน 60,000 บาท จ่ายเงินสด 10,000 บาท ที่เหลือจ่ายเป็นเช็คลงวันที่ 31 มกราคม 2546 จำนวน 25,000 บาท และเช็คลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2546 จำนวน 25,000 บาท
10 ให้บริการทำความสะอาดอาคารพิกุลแมนชั่น เป็นเงิน 20,000 บาท ยังไม่ได้รับเงิน
15 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนแรกให้คนงาน 30,000 บาท โดยผ่านบัญชีธนาคาร
16 จ่ายชำระหนี้ค่าวัสดุสิ้นเปลืองทั้งหมดด้วยเช็ค
19 ซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในกิจการ 1 คัน ราคา 500,000 บาท จ่ายเงินดาวน์เป็นเช็คไป 100,000 บาท ที่เหลือผ่อนชำระอีก 10 งวด
25 นายบริสุทธิ์จ่ายเช็คจำนวน 10,000 บาท เป็นค่าเรียนเทควันโดของบุตรชาย
28 จ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้าค่าโทรศัพท์ 1,750 บาท และในวันนี้ได้จ่ายค่าอาหารเลี้ยงรับรองลูกค้าอีก
500 บาท
30 จ่ายค่าแรงงวดครึ่งเดือนหลังให้คนงาน 30,000 บาท โดยผ่านบัญชีธนาคาร และในวันนี้ได้รับชำระหนี้จากพิกุลแมนชั่นครึ่งหนึ่ง
31 เช็คที่สั่งจ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์สำนักงานครบกำหนดวันนี้ มีผู้ไปขึ้นเงินที่ธนาคารแล้ว
ตัวอย่างที่ 4 (กรณีรายการเปิดบัญชีไม่ได้เป็นการลงทุนครั้งแรก แต่เป็นการเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการ)
นายจำกัด เปิดกิจการรับกำจัดแมลงทุกชนิดชื่อร้าน “แมลงหนี” มาตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2520 วันที่ 1 มกราคม 2546 ซึ่งเป็นวันเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ของกิจการมียอดคงเหลือของบัญชีสินทรัพย์ และหนี้สินต่าง ๆ ดังนี้ เงินสด 200,000 บาท เงินฝากธนาคาร 200,000 บาท ลูกหนี้ 50,000 บาท ตั๋วเงินรับ 20,000 บาท วัสดุสำนักงาน 5,000 บาท วัสดุสิ้นเปลือง 10,000 บาท อุปกรณ์กำจัดแมลง 50,000 บาท อุปกรณ์สำนักงาน 30,0000 บาท เจ้าหนี้ 60,000 บาท ตั๋วเงินจ่าย 30,000 บาท เงินกู้ธนาคาร 200,000 บาท
ในเดือนมกราคม 2546 มีรายการค้าของร้านแมลงหนีเกิดขึ้น ดังนี้
2546
ม.ค. 2 จ่ายค่าเช่าสำนักงาน 10,000 บาท
7 รับชำระหนี้จากลูกหนี้ 10,000 บาท
10 ได้รับเงินค่าบริการกำจัดปลวก 6,000 บาท
12 นำหนังสือพิมพ์เก่าของกิจการไปขายได้เงิน 300 บาท
15 ส่งบิลค่าบริการกำจัดมดให้แก่บริษัท บ้านและเรือน จำกัด เป็นเงิน 120,000 บาท ได้รับเงินสด 20,000 บาท เช็คลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 จำนวน 50,000 บาท ที่เหลือลูกค้าของค้างไว้ก่อน
17 นำเงินฝากธนาคาร 30,000 บาท
18 จ่ายเงินซื้อพันธบัตรของการสื่อสารแห่งประเทศไทย จำนวน 50,000 บาท เพื่อลงทุน
21 จ่ายค่าโฆษณาร้าน 3,000 บาท
26 ได้